Home / Blogs / iPhone / วิธีเลิกแชร์ข้อมูลและจัดการการเข้าถึงบน iPhone ใน 3 ขั้นตอน

วิธีเลิกแชร์ข้อมูลและจัดการการเข้าถึงบน iPhone ใน 3 ขั้นตอน

แค่ใช้ iPhone ก็ดูได้ว่าเคยแชร์อะไรไว้บ้างพร้อมยกเลิกการแชร์ได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้มากขึ้น

 

เวลาที่เราใช้ iPhone ก็มักจะมีสิ่งที่ต้องแชร์ให้กับคนอื่นอยู่เสมอทั้งรูปภาพ โน้ต ปฏิทิน โฟลเดอร์และไฟล์งาน รวมไปถึงตำแหน่งที่ตั้งซึ่งนอกจากแชร์กับผู้คนทั่วไปแล้วข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ยังแชร์ร่วมกับบางแอปพลิเคชันที่สามารถเข้าถึงได้อีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไปบางไฟล์หรือบางเนื้อหาเราอาจจะไม่ต้องการแชร์ให้คนอื่นได้เห็นแล้ว ต้องการที่จะเลิกแชร์ข้อมูลต่างๆ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยแชร์อะไรกับใครไว้บ้าง ใครที่ใช้ iPhone ก็ไม่ต้องกังวลเพราะ iPhone จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ได้ด้วยการจัดการการแชร์และการเข้าถึงผ่านฟีเจอร์การตรวจสอบด้านความปลอดภัย ใครที่กังวลว่าเคยแชร์อะไรไปบ้างก็สามารถเรียกดูรายการแชร์ทั้งหมดแล้วยกเลิกการแชร์ได้ทันทีใน 3 ขั้นตอน

 

ขั้นตอนการหยุดแชร์ข้อมูล

ไปที่การตั้งค่าบน iPhone > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > การตรวจสอบด้านความปลอดภัย > จัดการการแชร์และการเข้าถึง จะแสดงรายละเอียดการตรวจสอบการแชร์ของเราทั้งหมดเป็น 3 ขั้นตอนคือการตรวจสอบผู้คน ตรวจดูแอป และ ตรวจความปลอดภัยของบัญชี ให้เลือกดำเนินการต่อเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1

 

 

ขั้นตอนที่ 1 คือการตรวจสอบผู้คน โดยจะแสดงให้เห็นว่ามีใครที่เราแชร์ข้อมูลใดไว้บ้าง เช่น โน้ต รูปภาพ ตำแหน่งที่ตั้ง การเลือกผู้คนจะเป็นการหยุดแชร์ข้อมูลทุกอย่างทั้งหมด หรือสามารถเลือกดูได้จากแถบข้อมูลว่าเราต้องการหยุดแชร์เนื้อหาใดกับผู้อื่น เช่น กิจกรรม ข้อมูลสุขภาพ ปฏิทิน เป็นต้น เลือกรายการที่ต้องการหยุดแชร์แล้วกดตรวจสอบการแชร์เพื่อดูรายชื่อแล้วเลือกจากนั้นกดหยุดแชร์ เมื่อเสร็จแล้วให้กดดำเนินการต่อ

 

 

ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบการเข้าถึงของแอป การตรวจสอบขั้นตอนนี้จะแสดงรายการแอปต่างๆ ที่เข้าถึงข้อมูลของเรา เช่น กล้อง ไมโครโฟน รูปภาพ สถานที่ตั้ง รายชื่อและบลูทูธเป็นต้น ให้เราเลือกรายชื่อแอปที่ต้องการเลิกแชร์ข้อมูลแล้วเลือก หยุดการเข้าถึงของแอป เมื่อเสร็จสิ้นให้กดดำเนินการต่อ

 

 

ขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบความปลอดภัยของบัญชี ขั้นตอนนี้จะแสดงรายชื่ออุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมดที่ลงชื่อเข้าด้วย Apple ID เดียวกัน หากใครที่มีอุปกรณ์เครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้หรือส่งต่อให้คนอื่นไปแล้วก็สามารถเลือกรายการอุปกรณ์นั้นๆ แล้วกดลบอุปกรณ์ที่เลือกได้ จากนั้นตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้ ในบางครั้งการทำรายการบางอย่างเราต้องมีการรับรหัส OTP เพื่อมากรอกยืนยันตัวตน หากมีเบอร์โทรเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วก็กดลบออกได้เลยจากนั้นให้กดดำเนินการต่อ และจะมีให้เราอัปเดตรหัสผ่าน Apple ID และรหัสอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยซึ่งสามารถอัปเดตได้ภายหลังในการตั้งค่า ตรวจสอบรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินกดดำเนินการต่อจากนั้นเป็นอันเสร็จสิ้น

 

 

 

เพียงเท่านี้เราก็สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของเราที่เคยแชร์เอาไว้ทั้งหมดได้แบบง่ายๆ พร้อมเลือกให้หยุดแชร์ได้เลยทันที เพราะความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ Apple ให้ความสำคัญอยู่เสมอ ใครที่ใช้ iPhone บอกเลยว่ามั่นใจในการใช้งานได้แบบหายห่วงเพราะนอกจากการจัดการการแชร์และการเข้าถึงแล้ว เรายังสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน iPhone ด้วยวิธีอื่นๆ ได้อีกเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลมากเกินไปโดยไม่จำเป็น

Back to blog